วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

TOPLO Disease – Fighting Foods อาหารต้านโรค


TOPLO Disease – Fighting Foods อาหารต้านโรค
ทุกวันนี้การจะเลือกกินเฉพาะสิ่งที่มีคุณค่าและสารอาหารครบถ้วนอย่างเดียวคงไม่พอ ควรเลือกกินอาหารที่มีผลในการต้านทานโรคภัยด้วย เพื่อให้ได้ประโยชน์กำลังสอง ถ้าได้รู้ว่าแต่ละสิ่งที่กินเข้าไปนั้นช่วยรักษาโรคอะไรได้บ้าง เราจะมีความสุขกับการกิน มีกำลังใจในการเลือกสรรขึ้นอีกเยอะ ( แม้บางอย่างจะไม่ถูกปากก็ตาม ) ทุกครั้งที่ไปช็อปปิ้งอย่าลืมจดชื่ออาหารเหล่านี้ลงไปในรายการด้วย
Spinach การ์ตูนป๊อปอายยังขายได้ เพราะผักโขมมีประโยชน์จริง ๆ คนทั่วไปพอได้ยินชื่อผักโขมก็คิดว่าคงมีรสชาติขื่นขมพะอืดพะอมสมชื่อ แต่ความจริงผักโขมเป็นผักที่มีรสชาติดี จะผัดร้อน ๆ ต้มซุป หรือทำขนมพายก็ได้ สีเขียวเข้มนั้นอุดมด้วย lutein ซึ่งช่วยลดการเสื่อมของกล้ามเนื้อตา เพราะ lutein เปรียบเสมือนฟิมล์ป้องกันรังสียูวีโดยปกป้องดวงตาจากแสงแดดนั่นเองTry this : ต้มจืดเต้าหู้ผักโขม ผัดผักโขมไฟแดง ผักโขมลวกจิ้มน้ำพริก สลัดผักโขม
Whole grains 85 เปอร์เซ็นต์ ของคนส่วนใหญ่จะกินข้าวหรือขนมปังสีขาว ทั้งที่ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท หรือขนมปังสีน้ำตาลที่ผสมเมล็ดธัญพืชมีประโยชน์มากกว่า เพราะมีไฟเบอร์สูง ช่วยให้ระบบขับถ่าย ไม่มีปัญหา ที่สำคัญช่วยลดการเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ เบาหวาน ความดันสูง โรคหัวใจ และโรคอ้วนTry this : ซูชิข้าวกล้อง ข้าวกล้องผัดใส่กุ้ง ข้าวแดงต้มผสมเมล็ดธัญพืช แซนด์วิชขนมปังโฮลวีท ขนมปังธัญพืชทาเนยอบกรอบ
Blueberries เห็นบลูเบอร์รี่ลูกเล็ก ๆ อย่างนี้ แต่กลับมีแอนติออกซิแดนท์สูงมาก หากกินเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้พ้นจากโรคภัยที่มีเหตุผลมาจากเหล่าอนุมูลอิสระทั้งหลาย เช่นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และยังช่วยต้านริ้วรอยที่ทำให้ผู้หญิงเราดูแก่เร็วอีกด้วยTry this : บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก สลัดผักใส่บลูเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่สดแช่แข็ง สมู้ทธีบลูเบอร์รี่
Bean พืชตระกูลถั่วชนิดต่าง ๆ เช่น ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วลันเตา ถั่วแขก เหล่านี้เป็นอาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์และสารอาหารที่ร่างกายต้องการ เช่น กรดโฟลิก แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก และสังกะสี หากกินถั่วประมาณครึ่งถ้วย อาทิตย์ละ 4 ครั้ง จะช่วยลดอัตราการเป็นโรคหัวใจถึง 22 เปอร์เซ็นต์ แต่น่าเสียดายที่ทุกวันนี้คนเรากินถั่วเพียงเดือนละไม่ถึงครึ่งถ้วยด้วยซ้ำTry this : ซุปแฮมใส่ถั่วลันเตา หุงข้าวสวยผสมถั่ว ต้มจืดเห็ดหอมถั่วแดง ถั่วดำต้มน้ำกะทิ สลัดผักใส่ถั่ว
Kiwifruit ผลกีวีมีวิตามินซีสูงกว่าส้ม และยังมีวิตามินเอ ไฟเบอร์ โพแทสเซียม แมกนีเซียม ที่สำคัญคือมีแอนติออกซิแดนท์ช่วยลดอัตราการเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง คนทั่วไปรู้ดีว่ากีวีมีประโยชน์ แต่กลับกินกีวีน้อยกว่าที่คิด คือประมาณหนึ่งผลต่อปี ทั้งที่จริง ๆ แล้วควรจะกินให้ได้วันละหนึ่งผลจึงจะมีประโยชน์เพียงพอต่อร่างกายTry this : มิกซ์ฟรุตสลัดใส่กีวี กีวีกับโยเกิร์ต สมู้ทธีกีวี
Soy milk อีกทางเลือกหนึ่งของคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก นมถั่วเหลืองอุดมด้วยแคลเซียมและวิตามินดี แต่มีไขมั่นต่ำ ดื่มนมถั่วเหลืองทุกวันช่วยลดการเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ กนะดูกเสื่อม ความจำเสื่อม และโรคอ้วนTry this : นมถั่วเหลืองชนิดกล่อง กาแฟใส่นมถั่วเหลือง เต้าฮวย ( นมถั่วเหลือง ) ฟรุตสลัด เจลลี่นมถั่วเหลือง
Wheat germ คนรุ่นใหม่ที่อายุต่ำกว่า 55 ปี อาจจะเห็นเป็นของใหม่ แต่จมูกข้าวสาลีเป็นที่รู้จักกันดีในบรรดาผู้สูงวัย เพราะรับประทานง่ายและมีไฟเบอร์สูง รวมทั้งมีแมกนีเซียม กรดโฟลิก วิตามินอี และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ร่างกายต้องการ ช่วยลดอัตราการเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง และช่วยลดคอเลสเทอรรอลในเส้นเลือดTry this : ขนมปังโฮลวีทผสมกับซีเรียลกินตอนเช้า เค้กหรือมัฟฟินที่ใช้แป้งโฮลวีท
Tomato กินมะเขือเทศบ่อย ๆ ช่วยให้ผิวสวยเพราะในมะเขือเทศมีไลโคปีนที่จำเป็นต่อการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และมีแอนติออกซิแดนท์ซึ่งลดการเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชาย หากกินมะเขือเทศทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศสดหรือน้ำมะเขือเทศ จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารไลโคปีนในจำนวนที่เพียงพอTry this : น้ำมะเขือเทศไม่ผสมน้ำตาล สปาเกตตีราดซอสมะเขือเทศ แซนด์วิชชีสใส่มะเขือเทศ น้ำพริกมะเขือเทศกับผักสด ซุปมะเขือเทศ
Yogurt โยเกิร์ตมีแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยป้องกันอาการท้องอืดท้องเฟ้อและอาการท้องผูกท้องร่วง ช่วยลดการเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยแคลเซียม จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดอาหารประเภทนมเนยโดยไม่ต้องกลัวว่าจะขาดแคลเซียม แต่ควรเลือกโยเกิร์ตที่ไม่ผสมน้ำตาลTry this : ผลไม้รวมใส่โยเกิร์ต สลัดผักราดโยเกิร์ต สมู้ทธีใส่โยเกิร์ต ผสมซุปโยเกิร์ตลงในซุปอุ่น ๆ สักช้อน ปลาแซลมอนย่างราดซอสโยเกิร์ตผสมแตงกวา
Nuts ถึงเวลาอาหารว่างอย่าลืมนึกถึงถั่ว ( ไม่ใช่ถั่วลิสง ) เพราะถั่วคือของกินเล่นที่มีประโยชน์มากกว่าขนมขบเคียว ถั่วมีหลายประเภท เช่น อัลมอนด์ วอลนัท บราซิลเลียนนัท พิสทาซิโอ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ พีแคน เชสนัท ซึ่งอุดมด้วยโปรตีน แมกนีเซียม วิตามินบีและอี คนส่วยใหญ่ไม่ค่อยกินถั่ว เพราะคิดว่ามีแคลอรีสูง แต่ถั่วมีกรดไขมันที่ร่างกายต้องการ ฉะนั้นถ้าเลือกกินในจำนวนที่เหมาะสม คือไม่เกิน 25 กรัมต่อวัน ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักTry this : สลัดผักใส่อัลมอนด์ ส้มตำใส่เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ไอศกรีมโรยหน้าด้วยพิทาซิโอ ผลไม้แห้งกับถั่ว วอลนัทกับชีส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น