วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2552

10 อันดับ ตำนานน่ากลัวของโลก


อันดับ 10 เพชรโฮป (Hope Diamond) เป็นเพชรสีนํ้าเงินขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีนํ้าหนักถึง 45.52 กะรัต โดยพ่อค้าฝรั่งเศสนาม จอห์น แบ็บติส ทราวิเนียร์ ได้ขโมยมาจากพระนลาฏ (หน้าผาก) เทวรูปฮินดูในวิหารแห่งหนึ่งของอินเดีย เมื่อราว ค.ศ. 1600 โดยหารู้ไม่ว่าโคตรเพชรนี้มีคําสาปติดมาด้วย นั่นคือ มันผู้ใดที่ขโมยหรือครอบครองเพชรโฮป จะต้องประสบความวิบัติทุกรายไป! และก็จริงตามคําสาปครับ นับตั้งแต่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งทรงซื้อเพชรนี้จากนายทราวิเนียร์ พระองค์และ พระราชวงศ์ก็ทรงได้รับภัยร้ายกาจจากการปฏิวัติของฝรั่งเศสตลอด กระทั่งนาย เฮนรีย์ ฟิลิป โฮป (เจ้าของชื่อเพชรเม็ดนี้) นายปิแอร์ คาร์เทียร์ (พ่อค้าอัญมณีชื่อดังที่เรารู้จักกันดี) ฯลฯ ล้วนประสบกับอัปมงคลจนถึงผู้ครอบครองรายสุดท้ายคือ ตระกูลของ เซอร์ ฮาร์รีย์ วินสตัน ได้ให้เลดี้ไฮโซ ผู้หนึ่งยืมสร้อยคอเพชรโฮป สวมใส่ในงานราตรี สองเดือนต่อมา ลูกน้อยของเธอก็ตายอย่างลึกลับ สามีกลายเป็นบ้าและต้องหย่าขาดกัน ในที่สุด ทายาทตระกูลวินสตันจึงมอบเพชรโฮปให้สถาบันสมิธ โซเนียนของสหรัฐฯ เป็นผู้อนุรักษ์แทนครับ อันดับ 9 วิหารกระดูก แห่งเมือง อีโวรา, โปรตุเกส

ส่วนที่เหลือ วิหารนี้สร้างในศตวรรษที่ 15 โดยพระนิกายฟรานซิสกัน ที่ประหลาดพิสดารคือ ผนังภายในวิหารนี้สร้างขึ้นจากกระดูกของมนุษย์กว่า 5,000 คนครับ เท่านั้นไม่พอ มีซากศพ 2 ร่าง ห้อยแขวนติดผนังด้านหนึ่งด้วย! ตํานานวัดระบุว่า ครั้งกระโน้นมีสตรีนางหนึ่งซึ่งยึดมั่น ในคาทอลิก แต่ได้ถูกสามีผู้โมโหร้ายกับลูกชายของ เธอเองช่วยกันโบยตีจนตาย ก่อนสิ้นชีวิต เธอได้สาป ให้วิญญาณของเขาทั้ง 2 ลงนรก แม้แต่พื้นพสุธา ก็จะไม่ยินดีรับร่างของเขาไว้ ไม่นานนัก ชายทั้งสองก็ถึงแก่มรณกรรม ชาวเมืองพยายามขุด หลุมฝังศพของเขา แต่ขุดลงไปที่ใดก็เจอะแต่หิน เมื่อจนปัญญา พวกเขาจึงนําเอาซากศพทั้งสองขึ้น ไปห้อยแขวนไว้กับ ผนังวิหารดังกล่าว สําหรับให้นักบวชได้ใช้ปลง ในระหว่างทําสมาธิครับ ก็นับเป็นคําสาปที่ขลังยิ่ง อันดับที่ 8 ละครเรื่อง แม็คเบ็ธ (Macbeth) ของเชคสเปียร์ ละครเรื่องนี้มีฉากที่เกี่ยวกับแม่มดและ คําสาปมนต์ดํา ว่ากันว่าทําให้แม่มดตัวจริงสมัยนั้น เคืองแค้น ที่เชคสเปียร์นําเอาเรื่องลับของพวกเขามาเปิดเผย จึงสาปให้ละครเรื่องนี้มีอันเป็นไป-หากใครนํามาแสดงโดยเฉพาะตัวละครที่เล่นบทแม็คเบ็ธ ผลของคําสาปอุบัติขึ้นตั้งแต่หนแรกสุดที่ละครนี้ออกแสดง โดยผู้แสดงที่ชื่อ ฮัล เบอร์ริดจ์ ซึ่งสวมบทเลดี้เอม ได้ล้มเจ็บลงในคืนนั้น และสิ้นใจตายหลังเวที และนับแต่นั้นมาเกือบ 400 ปี ละครเรื่องนี้ก็มีอาถรรพณ์เกิดขึ้นกับนักแสดงมาตลอด เช่น มีอุบัติเหตุบาดเจ็บ ล้มตาย บางคนฆ่าตัวตาย และที่น่าพรึงเพริดที่สุดก็คือ ในปี ค.ศ. 1947 นักแสดงชื่อ ฮาโรลด์ ทอร์แมน เป็นผู้รับบทแม็คเบ็ธ ในระหว่างการดวลดาบนั้น คู่ต่อสู้ของเขาลืมสวมที่ครอบปลายดาบ พอแม็คเบ็ธ ถูกแทงล้มลง กลางเวที ผู้ดูต่างก็ปรบมือพอใจในบทบาท หากทว่า หลังเวทีนั่นซิ ต่างก็ตกใจกันยิ่งนักที่เขาโดน แทงจริงๆ ทอร์แมนตายใน 3 สัปดาห์ต่อมา อันดับ 7 คําสาปของ อลิสแตร์ ครอว์ลีย์ พ่อมดแห่งทะเลสาบล็อคเนสส์ สกอตแลนด์ ปี 1899 ครอว์ลีย์อาศัยอยู่ในบ้านอย่างโดดเดี่ยว ทางตอนใต้ของทะเลสาบที่ลือลั่นในเรื่องอสุรสัตว์ กล่าวกันว่าเขา ขมังในเรื่องเวทมนตร์และเลี้ยงวิญญาณภูตไว้ถึง 115 ตน เขาสามารถดลบันดาลให้ เพื่อนบ้านหลายคนมีอันเป็นไปนานา จนเป็นที่หวาดหวั่นไปทั่ว ก่อนตาย ครอว์ลีย์ ได้สาปทิ้งท้ายไว้กับยอด เขาแห่งหนึ่งซึ่งเรียกกันว่า "ปล่องไฟปีศาจ" และครอว์ลีย์เคยหลงทางที่ยอดเขานี้ ซึ่งทําให้เขาขัดเคืองใจ จึงสาปว่าเมื่อใดที่ยอดเขานี้พังทลาย สิ่งชั่วร้ายต่างๆก็จะถูกปลดปล่อยแผ่กระจายไปด้วย "ปล่องไฟปีศาจ" ยืนหยัดอยู่นานนับพันปี แต่แล้วในเดือนเมษายน 2001 ยอดสูงราว 70 เมตร ก็มีอันถล่มทลายลงมาในทะเล เรื่องนี้ทําให้ผู้ที่เชื่อถือในตํานานพากันผวาไปตามกันเลยครับ ป่านนี้นรกคงครอบคลุมแผ่นดินแล้ว! อันดับ 6 คําสาปวูดูแห่งนิวออร์ลีนส์ สหรัฐฯ แม่มดวูดูผู้นี้มีนามว่า มารี ลาโว มีชีวิตอยู่ในช่วง ค.ศ. 1800 กว่าๆ เพื่อนบ้านรํ่าลือกันว่าเธอสามารถสาปได้ทั้งคนและสัตว์ โดยใช้มนต์ดําของวูดู กระทั่งทุกวันนี้ยังมีการ จัดทัวร์พาไปชมบ้านของเธอ รวมทั้งบนบานขอให้เธอช่วยสาปใครก็ได้ เรียกกันว่า บลัดดี้มารีทัวร์ ทั้งนี้ ผู้ขอจะต้องปฏิบัติดังนี้ครับ เริ่มจากเคาะ 3 ครั้งบนโลงศพของมารี แล้วหมุนกายทวนเข็มนาฬิกา 3 รอบ เซ่นเหล้ารัม ข้ามหลุมศพ 3 หน แล้วเปล่งชื่อของเธอออกมาดังๆ จากนั้นก็บอกกล่าวถึงจุดประสงค์ของคุณ (ว่าจะให้เธอดลให้ศัตรูของคุณวิบัติอย่างไร) ไม่เชื่อก็เดินทางร่วมทัวร์ไปพิสูจน์ได้ อันดับ 5 คําสาป ตุตันคาเมน สรุปสั้นๆแค่ว่า ทั้ง โฮวาร์ด คาร์เตอร์, ลอร์ด คาร์นาวอน และผู้มีส่วนรบกวนสุสานของฟาโรห์องค์ นี้ ล้วนมีอันล้มหายตายจากก่อนวัย อันควรทั้งนั้น ตุตันคาเมน เป็นฟาโรห์หนุ่มที่ถูกกล่าวถึงกันมากในเรื่องอาถรรพ์จากคำสาปที่นักบวชแดนไอย์คุปต์บรรจงสลักไว้ในสุสานของพระองค์ ข้อความคลังเปี่ยมด้วยอาถรรพ์ที่ว่า "มรณะจักโบยบินมาสังหารสู่ผู้บังอาจรังควานสันติสุขแห่งพระองค์ฟาโรห์" ทำให้มีการตายอย่างน่าพิศวงซ้ำแล้วซ้ำเล่า เชื่อกันว่า ความตายเหล่านั้นเกิดขึ้นเพราะฤทธิ์คำสาป นับแต่สุสานถูกเปิดเมื่อปี 1922 ผู้ร่วมพิธีเปิดเสียชีวิตไป 22 คน และเล่ากันว่า นับจากนั้นมาแม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไร หากครั้งใดที่ฟาโรห์ตุตันคาเมนถูกรบกวนก็ย่อมจะมีผู้ที่สังเวยต่อคำสาปอันลี้ลับนี้เสมอมา รวมถึงลอร์ดคาร์นาร์วอน เจ้าของทุนในการขุดค้นสุสานก็เสียชีวิตลงหลังจากถูก "ยุงกัด" "ตุตันคาเมน" เป็นฟาโรห์องค์ที่ 12 ในราชวงศ์ที่ 18 ของอียิปต์ ทรงขึ้นครองราชย์ด้วยพระชนม์เพียง 10 พรรษา ทรงเป็นกษัตริย์อียิปต์โบราณในช่วงปี 1334 - 1323 ก่อนคริสตกาล ภายหลังขึ้นครองราชย์ได้เปลี่ยนพระนามเป็น "ตุตันคามุน" พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์เมื่อพระชนม์เพียงแค่ 18 พรรษาโดยไม่ทราบสาเหตุแต่เชื่อกันว่าฟาโรห์หนุ่มองค์นี้ถูกลอบปลงพระชนม์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีข่าวออกมาแย้งว่าจากการศึกษาด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่พบว่าพระองค์น่าจะสิ้นพระชนม์จากบาดแผลที่ติดเชื้อมากกว่าถูกลอบปลงพระชนม์ ด้วยระยะเวลาอันสั้นในการครองราชย์ทำให้ทรงไม่มีภารกิจใดมากนัก นอกจากนั้นหลังสิ้นพระชนม์ทรงถูกกษัตริย์องค์ต่อมาลบทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งพระนามของตุตันคาเมนออกจากรายนามพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ ทำให้ไม่มีนักประวัติศาสตร์คนใดรู้จักพระนามของพระองค์เลย จนกระทั่งในวันที่ 4 พฤศจิกายน 1922 โฮเวิร์ด คาร์เตอร์ และลอร์ด คาร์นาวอน ชาวอังกฤษค้นพบสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดในโลก พวกเขาเป็นสองคนแรกที่เข้าไปในสุสานของตุตันคาเมนในรอบ 3,000 ปี ในห้องที่พวกเขาพบเต็มไปด้วยทองคำและของมีค่ามากมาย ซึ่งเจ้าของของสิ่งมีค่าเหล่านี้คือฟาโรห์หนุ่มที่มีพระนามว่า "ตุตันคาเมน" นั่นเอง เนื่องจากพระศพและสุสานที่สร้างขึ้นไม่ได้สลักชื่อว่าเป็นของกษัตริย์ เลยรอดพ้นเงื้อมมือโจรที่คอยปล้นและทำลายสุสานไปได้ จึงทำให้ทุกอย่างยังคงสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด แต่กระนั้น พระองค์ก็ยังทรงไม่วายถูกรบกวนหลังจากโลงพระศพถูกเปิด อาถรรพ์ของคำสาปจึงเป็นเกราะอย่างหนึ่งที่จะทำให้ฟาโรห์ตุตันคาเมนทรงได้พักผ่อนอย่างสงบตลอดกาล อันดับ 4 อีกา แห่งป้อมปราสาท ลอนดอน (Tower of London) ป้อมปราสาทนี้ เป็นที่รู้จักกันดี ในฐานะถูก ใช้เป็นที่คุมขังและ ประหารบุคคลสําคัญๆ ของอังกฤษมากมาย หลายท่าน ณ ลานปราสาทแห่งนี้จะมีการเลี้ยงดูอีกา จํานวน 6 ตัว เนื่องจากมีคําสาปมานานกว่า 900 ปี ว่า ถ้าหากอีกาลดจํานวนลงเมื่อใด เมื่อนั้นความหายนะจะมาเยือน นครลอนดอน และสิ้นสุดพระราชวงศ์แห่ง อังกฤษ! เรื่องนี้มีตํานานปรากฏเป็นเอกสาร ในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ราวศตวรรษที่ 17 ด้วยนะครับ ไม่ใช่ เรื่องเลื่อนลอยแต่ อย่างใด และทําให้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นยาม หรือกษัตริย์ถือเป็น เรื่องจริงจังอ ย่างเคร่งครัด เช่นว่า ถ้ามีอีกาตายหนึ่งตัว จะต้องรีบถวายรายงานต่อควีนทันที และต้องจัดหาอีกาตัวใหม่ มาทดแทนโดยด่วน ซึ่งอีกาทุกตัวจะมีชื่อเรียก และถ้าตายก็จะถูกนําไปฝังอย่างมีพิธีการ จะมีการเลี้ยงอีกาไว้สํารองตลอดเวลา ถ้าตัวใดล้มป่วย ก็ต้องรีบตรวจสอบ หาไม่ถ้าหากตายโดยโรคติดต่อ (เช่น ไข้หวัดนก) และเช้าขึ้นมาอีกาตายเกลี้ยงละก้อ เชื่อกันว่าทั้งพระราชวงศ์ก็จะอันตรธานไปเช่นกัน อันดับ 3 คําสาปตะกั่วแห่งกรีซ ใน ค.ศ. 1979 มีการขุดค้นโบราณสถานชื่ออโกรา, นครเอเธนส์ ทําให้พบแผ่นม้วนตะกั่วบางๆ ซึ่งมีจารึกภาษาโบราณอันเป็นคําสาปปรากฏอยู่ แผ่นตะกั่วนี้เรียกกันว่า คาตาเรส (Katares) ใช้ใส่ลงในโลงศพก่อนจะฝัง เชื่อกันว่าตะกั่วจะทําให้คําสาปจมลงไปอย่างรวดเร็วถึงขุมนรกพร้อมกับวิญญาณผู้ตาย เพื่อที่พระยมจะได้อ่านคําสาปและดลบันดาลให้เป็นไปตามนั้น นอกจากนี้ การฝากหรือทิ้งแผ่นคําสาปลงไปในนํ้าก็เป็นอีกวิธีการหนึ่ง เพราะนํ้าจะสามารถสื่อ ไปถึงผู้ที่เราต้องการสาปได้ ซึ่งแผ่นคาตาเรสกว่า 100 แผ่นที่ค้นพบนี้ได้ระบุจ่าหน้าถึง ซูลิส ไมเนอร์วา ซึ่งเป็นเทพีด้านอุทกของโรมันครับ อันดับ 2 คําสาป วัฏจักรมรณกรรม ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ นี่ก็เป็นอาถรรพณ์อีกอย่างซึ่ง โด่งดังมาก นั่นคือ ปธน. สหรัฐฯ ท่านใดที่ได้รับเลือกตั้งในปี ค.ศ. ที่ลงท้ายด้วยเลข 0 จะต้องถึงแก่ มรณกรรมในหน้าที่ ตํานานระบุว่า ผู้ที่สาปก็คือ เตคัมเซ่ หัวหน้าเผ่าอินเดียนแดง ผู้คับแค้นจากการถูกชนผิวขาวเข้ามายํ่ายีแย่งแผ่นดิน เขาได้สาปไว้ก่อนที่จะถูกฆ่าตายในปี ค.ศ. 1813 ปธน.คนแรกที่ตกเป็นเหยื่อก็คือ วิลเลียม เฮนรีย์ แฮร์ริสัน ที่ได้รับเลือกตั้งใน ค.ศ. 1840 ถัดจากนั้นคําสาปก็เป็นจริงมาตลอด ไม่ว่าจะเป็น ลิน-คอล์น (1860) การ์ฟิลด์ (1880) แม็คคินลีย์ (1900) ฮาร์ดิ้ง (1920) รูสเวลท์ (1940) เคนเนดี้ (1960) เพิ่งมีรอดรายเดียวคือ ปธน. เรแกน (1980) แต่ท่านก็ถูกมือปืนชื่อ จอห์น ฮิงค์ลีย์ ยิงบาดเจ็บสาหัสในปี 1981 นัยว่าปืนที่ใช้นั้นไร้ประสิทธิภาพ ท่านจึงรอดพ้น อาถรรพณ์มาได้อย่างหวุดหวิด อันดับ 1 คําสาปในสวนอีเดน (Garden of Eden) นับเป็นคําสาปแรกเริ่มสุดๆ ตั้งแต่ครั้งพระเจ้าสร้างโลกโน่นเลยครับ โดยปรากฏเรื่องราวอยู่ในพระคัมภีร์ไบเบิลว่า ก็อดทรงเสกอาดัม-มนุษย์ผู้ชายขึ้นก่อน จากนั้นก็แซะเอาซี่โครงของอาดัมมาเสกเป็นอีฟ แล้วส่งทั้งคู่ไปอยู่ในสวนอีเดน พร้อมรับสั่งว่าจะกินอะไรก็ได้ทุกอย่าง ยกเว้นผลไม้จากต้นแห่ง ความรู้หรือแอปเปิ้ล แต่ X งูตัวแสบซิครับ มันยุยงอีฟให้หมํ่า แอปเปิ้ลเข้าไป หมํ่าคนเดียวไม่พอ อีฟยังชักชวนให้อาดัมหมํ่าด้วย เมื่อขัดคําสั่งของพระเจ้า ก็เป็นเรื่องซิครับ โดย X งูจอมแสบ โดนสาปให้ไปไหนมาไหน ด้วยการ ใช้ท้องไถไป อีฟโดนสาปให้คลอดลูก ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว ส่วนอาดัมต้องทํางานหา เลี้ยงท้องอย่าง เหน็ดเหนื่อยทั้งชีวิต ซึ่งคําสาปมหากาฬนี้ก็ตกทอดมาถึงพวกเราทุกคนกระทั่งทุกวันนี้

Read More

รัฐธรรมนูญมีประวัติมายาวนาน

รัฐธรรมนูญมีประวัติมายาวนาน แต่มีหลักฐานชัดเจนในประเทศอังกฤษ สมัยพระเจ้าจอห์น ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่โหดร้าย และใช้อำนาจอย่างไม่มีขอบเขต ในวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1215 ขุนนางและพระราชาคณะจำนวน 25 คน ได้บังคับให้พระเจ้าจอห์นลงนามในเอกสารที่เรียกว่า "มหาบัตร" (The Great Charter, Magna Carta) ซึ่งเป็นสัญญาระหร่างพระมหากษัตริย์กับขุนนางและพระ โดยในมหาบัตรได้กำหนด

ส่วนที่เหลือ ถึงองค์การ และอำนาจของสภาใหญ่ (Magnum Concillium) และกำหนดว่าพระมหากษัตริย์จะเก็บภาษีบางอย่างตามที่กำหนดไว้ โดยมิได้รับความเห็นชอบจากสภาใหญ่มิได้ จะจับกุมคุมขังบุคคลได้ก็ต่อเมื่อ มีคำพิพากษาที่ชอบด้วยกฎหมาย มหาบัตรนี้ นักกฎหมายบางท่านเห็นว่า เป็นกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับแรก ต่อมาในปี ค.ศ. 1776 สหรัฐอเมริกาได้ประกาศอิสรภาพ จากการเป็นดินแดนอาณานิคมของอังกฤษ และในปี ค.ศ.1789 ได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐ (The Constitution of United States) รัฐธรรมนูญนี้ได้มีการวางกฎเกณฑ์ในการปกครองประเทศ อำนาจและหน้าที่ขององค์กรปกครองต่างๆ ในประเทศอย่างเป็นระเบียบ โดยมีการแยกองค์กรการปกครองประเทศออกเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการ ซึ่งรู้จักกันในนาม "หลักการแบ่งแยกอำนาจ" (Seperation of Power) มีการบัญญัติให้รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด และยอมรับอำนาจสูงสุดของประชาชนชาวสหรัฐอเมริกา โดยเรียกว่า "อำนาจอธิปไตย" (Sovereignty) การจัดทำรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯนี้ เป็นต้นแบบให้ประเทศต่างๆ เอาเป็นแบบอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สเปน เป็นต้น นอกจากนั้น รัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกายังเป็นการนำเอาแนวคิดของ นักปรัชญาที่ถกเถียงกันอย่างเป็นนามธรรมมาบัญญัติ ไว้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งแยกอำนาจ หลักอำนาจอธิปไตย หลักสัญญาประชาคม ด้วยเหตุนี้เอง นักกฎหมายบางท่านจึงเห็นว่า รัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา เป็นรัฐธรรมนูญอันเป็นลายลักษณ์อักษรฉบับแรกของโลก และเป็นอนุสาวรีย์แห่งกฎหมายมหาชน

Read More

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

สายพันธ์กระต่าย




พันธ์ เล็กสุด หรือ พันธ์แคระ( Very Small Breeds )
1.Netherland Dwarf ( "The Gem Of The Fancy" )Netherland Dwarf มีสีสันมากกว่า 30 สีและรูปแบบ. ARBA ได้ให้การยอมรับเมื่อปี 1969, เป็นที่นิยม มีลักษณะตัวเล็ก ขนสั้น และหูตั้งชัน โตเต็มวัยมี น้ำหนักเพียงแค่ ประมาณ 1 กิโล
2.Britannia Petite ( "The Fancy’s Elite" )รู้จักกันในเกาะอังกฤษว่า "Polish" สัดส่วนพอเหมาะ ขนาดกะทัดรัด มีหลากหลายสีสัน โตเต็มวัยน้ำหนักประมาณ ไม่เกิน 1 กิโล ( 2 1/4 ปอร์น )
3.Dwarf Hotot ( "The Eyes Of The Fancy" )พันธ์ Dwarf Hotot เกิดขึ้นในเยอรมันนี มีลักษณะตัวสั้น เล็กกระทัดรัด ตัวมีสีขาว มีวงแหวนสีดำรอบๆ ตา โตเต็มวัยน้ำหนักไม่เกิน 1 กิโล ( 2 1/4 pounds.)
4.Jersey Wooly ( "The Fluf Of The Fancy" )The Jersey Wooly ได้รับเข้า ARBA ในปี 1988. The jersey Wooly มีสีสันอยู่ประมาณ 5 รูปแบบ ได้แก่ agouti, pointed white, self, shaded and tan pattern. มีลักษณะตัวสั้นได้สัดส่วน ขนยาวประมาณ 2 -3 นิ้ว โตเต็มวัยจะมีน้ำหนักประมาณ 1.2 กิโล ( 3 pounds. )
5.Polish ( "The Little Aristocrat" )เป็นสายพันธ์ขนาดเล็ก มีสัสันหลายแบบ เช่น black, blue, chocolate, blue-eyed white and ruby-eyed white. ขนสั้นและ แน่น น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม ( 2 1/2 pounds. )
6.Holland Lop ( "The Hallmark Breed" )รับเข้า ARBA เมื่อปี 1980 สายพันธ์นี้ได้พัฒนาขึ้นในฮอลแลนด์ จึงได้ชื่อว่า Holland Lop เป็นสายพันธืเล็กกะทัดรัด ลักษณะหู จะตกลงมาปิด ตรงข้าง หัว สีสันจะมีประเภท agouti, broken, pointed white, self, shaded, solid and ticked. โตเต็มวัย น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกว่า ( 3 pounds.)
7.American Fuzzy Lop ( "Head Of The Fancy" ) The American Fuzzy Lop เป็นการผสมข้ามสายพันธ์ระหว่าง Holland Lop และ Angora. The American Fuzzy Lop ได้เป็นที่รู้จักเมื่อปี 1988 สีสัน จะมี agouti, broken, pointed white, self, shaded and solid. โตเต็มวัย น้ำหนักประมาณ 1.4 กก.
พันธ์เล็ก ( Small Breeds )
1.Mini Rex ( "The Heir To The Throne" )Mini Rex's จะมีลักษณะขนแบบซาติน เป็นสายพันธืใหม่ รับเข้า ARBA เมื่อปี 1988. Mini Rex มีมากมายหลายเฉดสี เช่น blue, californian, castor, chinchilla, lynx, opal, red, seal, tortoise, white and broken group. น้ำหนักดตเต็มวัย ประมาณ 1.4 กิโลกรัม
2.Dutch ( "World’s Finest Show Rabbit" )เป็น 1 ในสายพันธ์กระต่ายที่เก่าแก่ ปัจจุปัน ได้รับความนิยมมากในอเมริกา เป้นสายพันธ์ที่มีลักษณะมาร์คกิ้งเป็นเอกลักษ์ มีสีสันดังนี้ black, blue, chocolate, tortoise, steel and gray . มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนังประมาณ 1.8 กิโลกรัม ( 4 1/2 pounds. )
3.Florida White ( "The Little White Rabbit That Fills So Many Needs" )Florida White's เข้า ARBA ในปี 1960s. มีสีเดียวคือขาว น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม
4.Tan ( "Aristocrat Of The Fancy" )เฉดสีอยู่ในกลุ่ม black, blue, chocolate and lilac. น้ำหนัก ประมาณ 1.6 - 2.5 กิโลกรัม
5.Silver ( "The Sterling Breed" )Silvers จะมี อยู่ 3 สี คือ black, brown and fawn ( เทาแกมเหลือง ) โดยสีดำจะได้รับความนิยมมากที่สุด น้ำหนักประมาณ 2.4 กิโลกรัม
6.Mini Lopมักจะมีคนเข้าใจว่าเป้นพันธ์ Holland Lop ( ตระกูลlops ที่เล็กที่สุด ). สีจะมี agouti, broken, pointed white, self, shaded, solid and ticked. น้ำหนักประมาณ 2 -2.4 กิโลกรัม
7.Havana ( "The Mink Of The Rabbit Family" ) Havana มีสีที่รู้จักกัน 3 สี คือ black, blue and chocolate. น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม.
8.English Angora ( "The Bunny With A Bonus" ) มีกำเนิดมาจากประเทศตุรกีเมื่อร้อยปีที่ผ่านมา เป็นกระต่ายพันธ์ที่มีขนลักษณะเดียวกับแกะ ขนใช้ทำเครื่องนุ่งห่ม เฉดสี จะอยู่ในพวก agouti, pointed white, self, shaded, solid and ticked. น้ำหนักประมาณ 2.2 - 2.6 กิโลกรัม
9.Standard Chinchilla ( "The Original Chin" ) เป็นพันธ์ที่เล็กที่สุดของสายพันธ์ Chinchilla น้ำหนักประมาณ 2.5 กิโลกรัม
ขนาดกลางถึงใหญ่ ( Medium-To-Large Breeds)
1.English Spot ( "Spotted Beauty Of The Rabbitdom" )The English Spot'sไม่ทราบที่มาแน่นอน แต่เชื่อกันว่า มาจาก Flemish breeds and some species of white or spotted wild rabbit. เฉดสี มี black, blue, chocolate, gold, gray, lilac and tortoise. มีน้ำหนักประมาณ 2.5 กิโลกรัม
2.LilacThe Lilac originated as a sport from the Havana and still occasionally appears in Havana litters. The characteristic coat color is, in fact, a diluted Havana brown. The ideal color is uniform, medium dove-gray color with a pinkish tint on the surface. Bucks weigh 6 to 7 pounds, while does weigh 6 1/2 to 7 1/2 pounds.
3.Belgian Hare ( "King Of The Fancy" )สายพันธ์ Belgian Hare เชื่อกันว่า มาจาก ประเทศเบลเยี่ยม มีลักษณะลำตัวยาง มีน้ำหนักโดยประมาณ 3.2 กิโลกรัม
4.Satin Angora ( "The Bunny With A Bonus" )The Satin Angora มาจากการผสมข้ามสายพันธ์ ระหว่าง copper Satin และ fawn French Angora. สีสันที่มี agouti, pointed white, self, shaded, solid and ticked. น้ำหนักโดยประมาณ 3.2 กิโลกรัม
5.American Sable Sables are the result of Chinchilla crosses and have, at times, been crossed with Chocolate Havanas to obtain a deeper sepia color. Bucks weigh about 8 pounds, while does weigh 9 pounds.
6.American ( "Established As A Classic" )The American เป้นสายพันธ์แรกที่ได้รับการรับรอง เมื่อปี 1917. สีสันมี Blue, and white. น้ำหนักโดยประมาณ 4 กิโลกรัม .
7.Harlequin ( "The Royal Jester" )สายพันธ์นี้พัฒนาขึ้นในฝรั่งเศส มีสี 2เฉดสี ได้แก่ Japanese and Magpie, and are bred in black, blue, chocolate and lilac. They have a checker board look. น้ำหนักประมาณ 3.2 กิโลกรัม
8.Rhinelander ( "Calico Of The Fancy" )ไม่ทราบที่มา น้ำหนักประมาณ 3.2 กิโลกรัม
9.French Angora ( "The Bunny With A Bonus" ) สัสันมี agouti, pointed white, self, shaded, solid and ticked. น้ำหนักโดยประมาณ 3.2 กิโลกรัม
10.Rex ( "The King Of The Rabbits" )ขนจะมีลักษณะนิ่มเหมือนกับเสื้อโค๊ท สี จะมี black, black otter, blue, California, castor, chinchilla, chocolate, lilac, lynx, opal, red, sable, seal, white and broken group. น้ำหนัก ประมาณ 3.2 - 3.6 กิโลกรัม
11.Californian ( "From East Coast To West Californians Are The Best!" )รับการรับรองจาก ARBA เมื่อปี 1939. สายพันธืนี่จะมี สีตัวขาว จะมี สีดำที่ หู จมูกและ เท้า น้ำหนักโดยประมาณ 3.2 - 4 กิโลกรัม.
12.Beveren ( "The Breed Of Distinction" )สายพันธ์นี้ ได้มีขึ้นกลาง คศ.ที่19 ที่เมือง Beveren, was notable because the blue variety rapidsuch rapid popularity. Available in black, Blue and blue-eyed white. Bucks weigh about 9 pounds and does weigh around 10.
13.Palomino เกิดขึ้นที่เมืองวอชิงตัน มี 2 สี คือ golden and lynx. น้ำหนักโดยประมาณ 3.6 - 4 กิโลกรัม
14.Cinnamon ( "The Spice of the Rabbits" )สายพันธ์นี้ผสมข้ามสายพันธืจาก New Zealand Whites, Chinchillas, Checkered Giants and Californians. ได้รับการรับรองเมื่อปี 1972. น้ำหนักโดยประมาณ 3.6 - 4 กิโลกรัม
15.Satin ( "The Rabbit Of Beauty And Distinction" ) ขนจะนุ่มเป็นเงามัน มีสี ดังนี้ black, blue, Californian, chinchilla, chocolate, copper, red, Siamese, white and broken group. น้ำหนักโดยประมาณ 4 กิโลกรัม
16.Creme d'Argent ( "The Cream Of The Fancy" ) มีกำเนิดจากฝรั่งเศส เข้าในอเมริกาครั้งแรกเมื่อ 1934. น้ำหลักประมาณ 3.6 - 4 กิโลกรัม
17.Champagne d'Argent ( "The Silver Beauty" ) The name doesnt refer to color but rather the region of France that they came from. Bucks weigh 10 pounds, and does weigh 10 1/2.
18.New Zealand ( "The Breed In The Lead" )สีมี black, red and white. น้ำหนักประมาณ 4 กิโลกรัม
19.Silver Fox ( "One Of A Kind Since 1929" )รับรองเมื่อปี 1925.มี 2 สี คือ black and blue. น้ำหนักโดยประมาณ 4 กิโลกรัม
20.Silver Marten A sport from the Chinchilla breed. Varieties include black, blue, chocolate and silver. Bucks should weigh about 7 1/2 pounds, while does should weigh 8 1/2.
พันธ์ใหญ่ ( Giant Breeds )
1.Giant Angora ( "The Bunny With A Bonus" )เป็นสายพันธ์ที่เอาขนไปใช้มากที่สุด Groups include ruby-eyed white and blue-eyed white. น้ำหนักโดยประมาณ 4 กิโลกรัม
2.English Lop ( "King Of The Fancy" )English Lopsมีหูยาวประมาณ 24 นิ้ว เท่าที่เคยบันทึกไว้ ยาวถึง 28 1/2 นิ้ว สี สีจะมี agouti, brindled, broken, self, shaded, solid and ticked. น้ำหนักโดยประมาณ 4 กิโลกรัม
3.French Lop ( "King Of The Fancy" )เชื่อกันว่า พัฒนาสายพันธ์มาจาก English Lop and Flemish Giant ตัวผู้มีน้ำหนัก 4 กิโลกรัม ตัวเมีย ประมาณ 4.4 กิโลกรัมหรือมากกว่านั้น
4.Checkered Giant ( "The Rabbit Beautiful" )เชื่อกันว่า ถูกพัฒนามากสายพันธ์ Flemish Giant and a wild German wild hare. นำเข้ามาในกสหรัฐ เมื่อปี 1910 มี 2 สี คือ black and blue. น้ำหนักโโยประมาณ 4.4 กิโลกรัม
5.Giant Chinchilla ( "The Gentle Giant" )ผสมข้ามสายพันธืระหว่าง the Standard Chinchilla with other breeds, including the Flemish Giant. มีน้ำหลักประมาณ 5.2 - 5.6 กิโลกรัม
6.Flemish Giant ( "The Universal Breed" ) สีมี black, blue, fawn, light gray, sandy, steel gray and white. น้ำหนักประมาณ 5.2 กิโลกรัมหรือมากกว่านั้น


Read More

โทษของคอนแทคเลนส์











คอนแทคเลนส์แฟชั่น เพื่ออะไร?
- คอนแทคเลนส์แฟชั่นนี่ นับพวก ตาโต เลนส์สีอะไรแบบนี้นะ ลักษณะก็จะเป็นเหมือนคอนแทคเลนส์แบบใสนั่นแหล่ะ บางรุ่นก็มีค่าสายตา บางรุ่นก็ไม่มี แต่ที่แน่ๆคือมีสีพื้น มีสีขอบ มีสามสีซ้อนกัน สรุปคือมันมีสีน่ะ (ถ้าไม่มีสีก็ไม่ใช่แฟชั่นสิ) บางรุ่นก็ขนาดใหญ่กว่าคอนแทคเลนส์ปกติ 14.0mm 14.5mm 14.8mm อะไรพวกนี้ จุดประสงค์หลักของมันก็คือ การสร้างความแปลกใหม่ให้กับดวงตา เช่นเลนส์สี ก็เปลี่ยนสีตา จากตาสีดำก็อาจจะอยากตาสีฟ้า ก็ใส่คอนแทคเลนส์สีเข้าไป เพิ่มขนาดตาดำ บางคนตาดำเล็ก ตาตี่ อยากดูตาโตขึ้น ก็ใส่พวกคอนแทคเลนส์ตาโต ช่วยให้ตาดำดูโตขึ้น เป็นการอำพรางความบกพร่องของรูปตาได้ บางคนอาจบอกว่า ใส่ทำไม เป็นสิ่งแปลกปลอม ไม่เป็นธรรมชาติ ดูหลอกลวง บางคนถึงกับด่าคนที่ใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่น บางคนมีคนรู้จักใส่ก็ตกใจรีบห้าม เหมือนเป็นเรื่องร้ายแรงมาก(ตกใจเหมือนเป็นโรคติดต่อยังไงยังงั้น) ซึ่งจริงๆตรงนี้ เป็นเรื่องส่วนบุคคลนะ เพราะว่า การใส่เนี่ย ไปใส่ที่ตาเค้า ไม่ใช่ที่ตาเรา แน่นอนว่าเราเป็นห่วง แต่ต้องให้คำแนะนำที่ถูกต้อง เตือนเรื่องการใช้งาน การรักษาความสะอาด ไม่ใช่ด่าว่า โง่ บ้า อะไรอย่างนี้ ไม่ดี ไม่ทำนะคะ จุ๊ๆ บางคนเลือกใส่คอนแทคเลนส์สีเพื่อง่ายต่อการสังเกต เวลาตกหล่น บางคนเลือกใส่เพราะไหนๆก็ใส่เลนส์สายตาอยู่แล้ว บางคนเลือกใส่เพราะต้องการพัฒนาบุคคลิกภาพของตน บางคนเลือกใส่เพราะเห็นเป็นแฟชั่น ตามเพื่อน ฯลฯ ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่ทุกคนพึงทำได้นะคะ แต่ต้องตั้งอยู่บนความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
คอนแทคเลนส์แฟชั่น กับข่าวอันน่าสะพรึง?
- คงเคยได้ยินกันเนอะ พวกข่าวใส่คอนแทคเลนส์สีแล้วตาบอดอะไรพวกนี้น่ะ อ่านแล้วมันน่าขนลุก น่ากลัวมากๆ หลายคนอ่านแล้วถึงขนาดไม่กล้าใส่ เห็นใครใส่ต้องรีบห้าม ตกอกตกใจกันยกใหญ่ หากลองอ่านดีๆนะคะ จะเห็นว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร ก่อนจะเข้าใจผิดกะไปมากกว่านี้ ^ ^ เหตุที่มาของข่าวอันตรายคอนแทคเลนส์นั้นมีสาเหตดังต่อไปนี้
- มีคนมาเล่าว่าเค้าหวิดตาบอดจากการใส่คอนแทคเลนส์สีเพียงไม่กี่ครั้ง พอเข้าไปอ่านเนื้อหา ปรากฏว่ามันจะไม่ตาบอดได้ยังไงละคะ ในเมื่อ
-เค้าห้ามใส่นอน น้องแกก็ใส่นอน บอกว่าขี้เกียจใส่ตอนเช้า กลัวไปเรียนไม่ทัน เหตุที่ ห้ามใส่นอน เพราะคอนแทคเลนส์นั้นจะไปครอบตาดำไว้ ทำให้ Oxygen ไม่สามารถเข้าสู่ตาดำได้ ซึ่งการใส่คอนแทคเลนส์ที่ถูกต้อง ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์ติดต่อกันเกิน 8 ช.ม. หากใส่เกินกว่านั้น จะทำให้ตาดำขาดOxygen เป็นเหตุให้เคืองตา ตาบวมแดง หรือถึงขั้น บอดสนิทศิษย์ส่ายหน้า...
- ใส่เสร็จ ถอดออกมาเค้าให้ล้างทุกครั้ง น้องแกก็ไม่ล้างแช่ไว้เฉยๆ น้ำยาก็ไม่เคยจะเปลี่ยน เหตุที่เค้าให้ล้าง ก็เพราะ เวลาเราใส่คอนแทคเลนส์เนี่ย จะมีพวกคราบโปรตีนมาเกาะ พวกคราบโปรตีนจะทำให้เกิดจะหมักหมมของเชื้อแบคทีเรีย แช่ลงไปในน้ำยา น้ำยาก็มีแบคทีเรีย เอามาใส่ใหม่ ก็เท่ากับเอาแบคทีเรียมาใส่ที่ตาเรา ดังนั้นหลังถอดคอนแทคเลนส์ควรล้างทุกครั้ง โดยล้างตามวิธีที่ถูกต้อง ใส่ทุกวันก็ล้างทุกวัน เปลี่ยนน้ำยาทุกวัน ไม่ได้ใส่ทุกวัน ก็ 3 วันเอาออกมาล้างที พร้อมเปลี่ยนน้ำยาด้วย ล้างตลับคอนแทคเลนส์และลวกน้ำเดือดทุกสัปดาห์ และเขวี้ยงแม่งทิ้ง แกะเอาตลับอันใหม่มาใช้ ทุก 1-3 เดือน
- เห็นถูกดี คู่ละ 69 คนขายบอกใส่ได้ 3 เดือน น้องแกก็เลยซื้อมา โถ น้องขา เห็นแก่ของถูก คอนแทคเลนส์ที่ขายบางทีก็เอาของไม่ได้คุณภาพมาขาย ของค้างปี คอนแทคเลนส์ที่หมดอายุแล้วบ้างล่ะ เอามาขายถูกๆ คนไม่รู้เรื่องก็ไปซื้อมาใส่ บางทีของยี่ห้อเดียวกันรุ่นเดียวกันแต่คนละที่ ขายราคาต่างกันลิบ อันนี้ต้องเอะใจบ้างนะ ว่าทำไมมันถูกเกินแพงเกินอย่างไร ดูราคาตลาดไว้ ที่ไหนขายถูกเว่อร์ ก็น่าสงสัยละ ว่าค้างว่าปลอมอย่างไร
- คอนแทคเลนส์มันครบเดือนแล้วอ่ะ แต่มันยังดูปกติอยู่เลยนี่นา ใส่ต่อละกัน เสียดาย น้องจะเสียดายเงินหรือเสียดายลูกตาน้องดี ไม่ได้แนะนำให้ใช้เงินฟุ่มเฟือยนะ แต่กับลูกตาเนี่ยขอเหอะ ถ้ามันครบเดือนแล้วก็ทิ้งมันไป อย่าไปเสียดายเลย เพราะดวงตาเรามีแค่คู่เดียวนะ อย่าให้เหตุเกิดจากความงกมาทำลายชีวิตเรานะจ๊ะ
สรุปง่ายๆ ต้นเหตุของข่าว ก็มาจาก ......ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ความซกมก ขี้เกียจ ความงก ของคนเรานี่ล่ะ ถ้าหากเราเพียงศึกษารายละเอียดข้อมูลให้ถี่ถ้วน ปฏิบัติตามข้อแนะนำที่ถูกต้องอย่างเคร่งครัด เน้น ว่า เคร่งครัด นะคะ ก็จะไม่เกิดเหตการณ์ดังในข่าว
คอนแทคเลนส์แฟชั่น...คุณหรือโทษ?
- คอนแทคเลนส์ไม่ได้มีคุณหรือโทษในตัวมันเองค่ะ หากแต่คุณหรือโทษ นั้นเกิดจากการใช้คอนแทคเลนส์อย่างถูกหรือผิดวิธี ซึ่งจุดนี้ ก็มาจากความรู้ความเข้าใจในการใช้คอนแทคเลนส์ของแต่ละบุคคล ดังนั้น น้องๆ และเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนที่สนใจอยากใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่น พึ่งกระทำดังนี้
1. ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางสายตา ก่อนเริ่มใช้คอนแทคเลนส์สี หรือศึกษารายละเอียดการใช้โดยละเอียดถี่ถ้วน ลองหาอ่านจากเน็ตนี่ละคะ มีทั้งวิธีการดูแลรักษา การใส่ การล้าง อุปกรณ์ต่างๆ ตัวอย่างที่เป็นโทษ แล้วพิจารณากันให้ดีค่ะ
2. ปฏิบัติตามคำแนะนำที่ถูกต้องทั้งหมดอย่างเคร่งครัด โดยไม่ขาดตกบกพร่อง
3. ใช้คอนแทคเลนส์แฟชั่นที่ได้คุณภาพ ราคาสมเหตุสมผลค่ะ

Read More

TOPLO Disease – Fighting Foods อาหารต้านโรค


TOPLO Disease – Fighting Foods อาหารต้านโรค
ทุกวันนี้การจะเลือกกินเฉพาะสิ่งที่มีคุณค่าและสารอาหารครบถ้วนอย่างเดียวคงไม่พอ ควรเลือกกินอาหารที่มีผลในการต้านทานโรคภัยด้วย เพื่อให้ได้ประโยชน์กำลังสอง ถ้าได้รู้ว่าแต่ละสิ่งที่กินเข้าไปนั้นช่วยรักษาโรคอะไรได้บ้าง เราจะมีความสุขกับการกิน มีกำลังใจในการเลือกสรรขึ้นอีกเยอะ ( แม้บางอย่างจะไม่ถูกปากก็ตาม ) ทุกครั้งที่ไปช็อปปิ้งอย่าลืมจดชื่ออาหารเหล่านี้ลงไปในรายการด้วย
Spinach การ์ตูนป๊อปอายยังขายได้ เพราะผักโขมมีประโยชน์จริง ๆ คนทั่วไปพอได้ยินชื่อผักโขมก็คิดว่าคงมีรสชาติขื่นขมพะอืดพะอมสมชื่อ แต่ความจริงผักโขมเป็นผักที่มีรสชาติดี จะผัดร้อน ๆ ต้มซุป หรือทำขนมพายก็ได้ สีเขียวเข้มนั้นอุดมด้วย lutein ซึ่งช่วยลดการเสื่อมของกล้ามเนื้อตา เพราะ lutein เปรียบเสมือนฟิมล์ป้องกันรังสียูวีโดยปกป้องดวงตาจากแสงแดดนั่นเองTry this : ต้มจืดเต้าหู้ผักโขม ผัดผักโขมไฟแดง ผักโขมลวกจิ้มน้ำพริก สลัดผักโขม
Whole grains 85 เปอร์เซ็นต์ ของคนส่วนใหญ่จะกินข้าวหรือขนมปังสีขาว ทั้งที่ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท หรือขนมปังสีน้ำตาลที่ผสมเมล็ดธัญพืชมีประโยชน์มากกว่า เพราะมีไฟเบอร์สูง ช่วยให้ระบบขับถ่าย ไม่มีปัญหา ที่สำคัญช่วยลดการเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ เบาหวาน ความดันสูง โรคหัวใจ และโรคอ้วนTry this : ซูชิข้าวกล้อง ข้าวกล้องผัดใส่กุ้ง ข้าวแดงต้มผสมเมล็ดธัญพืช แซนด์วิชขนมปังโฮลวีท ขนมปังธัญพืชทาเนยอบกรอบ
Blueberries เห็นบลูเบอร์รี่ลูกเล็ก ๆ อย่างนี้ แต่กลับมีแอนติออกซิแดนท์สูงมาก หากกินเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้พ้นจากโรคภัยที่มีเหตุผลมาจากเหล่าอนุมูลอิสระทั้งหลาย เช่นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และยังช่วยต้านริ้วรอยที่ทำให้ผู้หญิงเราดูแก่เร็วอีกด้วยTry this : บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก สลัดผักใส่บลูเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่สดแช่แข็ง สมู้ทธีบลูเบอร์รี่
Bean พืชตระกูลถั่วชนิดต่าง ๆ เช่น ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วลันเตา ถั่วแขก เหล่านี้เป็นอาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์และสารอาหารที่ร่างกายต้องการ เช่น กรดโฟลิก แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก และสังกะสี หากกินถั่วประมาณครึ่งถ้วย อาทิตย์ละ 4 ครั้ง จะช่วยลดอัตราการเป็นโรคหัวใจถึง 22 เปอร์เซ็นต์ แต่น่าเสียดายที่ทุกวันนี้คนเรากินถั่วเพียงเดือนละไม่ถึงครึ่งถ้วยด้วยซ้ำTry this : ซุปแฮมใส่ถั่วลันเตา หุงข้าวสวยผสมถั่ว ต้มจืดเห็ดหอมถั่วแดง ถั่วดำต้มน้ำกะทิ สลัดผักใส่ถั่ว
Kiwifruit ผลกีวีมีวิตามินซีสูงกว่าส้ม และยังมีวิตามินเอ ไฟเบอร์ โพแทสเซียม แมกนีเซียม ที่สำคัญคือมีแอนติออกซิแดนท์ช่วยลดอัตราการเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง คนทั่วไปรู้ดีว่ากีวีมีประโยชน์ แต่กลับกินกีวีน้อยกว่าที่คิด คือประมาณหนึ่งผลต่อปี ทั้งที่จริง ๆ แล้วควรจะกินให้ได้วันละหนึ่งผลจึงจะมีประโยชน์เพียงพอต่อร่างกายTry this : มิกซ์ฟรุตสลัดใส่กีวี กีวีกับโยเกิร์ต สมู้ทธีกีวี
Soy milk อีกทางเลือกหนึ่งของคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก นมถั่วเหลืองอุดมด้วยแคลเซียมและวิตามินดี แต่มีไขมั่นต่ำ ดื่มนมถั่วเหลืองทุกวันช่วยลดการเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ กนะดูกเสื่อม ความจำเสื่อม และโรคอ้วนTry this : นมถั่วเหลืองชนิดกล่อง กาแฟใส่นมถั่วเหลือง เต้าฮวย ( นมถั่วเหลือง ) ฟรุตสลัด เจลลี่นมถั่วเหลือง
Wheat germ คนรุ่นใหม่ที่อายุต่ำกว่า 55 ปี อาจจะเห็นเป็นของใหม่ แต่จมูกข้าวสาลีเป็นที่รู้จักกันดีในบรรดาผู้สูงวัย เพราะรับประทานง่ายและมีไฟเบอร์สูง รวมทั้งมีแมกนีเซียม กรดโฟลิก วิตามินอี และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ร่างกายต้องการ ช่วยลดอัตราการเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง และช่วยลดคอเลสเทอรรอลในเส้นเลือดTry this : ขนมปังโฮลวีทผสมกับซีเรียลกินตอนเช้า เค้กหรือมัฟฟินที่ใช้แป้งโฮลวีท
Tomato กินมะเขือเทศบ่อย ๆ ช่วยให้ผิวสวยเพราะในมะเขือเทศมีไลโคปีนที่จำเป็นต่อการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และมีแอนติออกซิแดนท์ซึ่งลดการเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชาย หากกินมะเขือเทศทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศสดหรือน้ำมะเขือเทศ จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารไลโคปีนในจำนวนที่เพียงพอTry this : น้ำมะเขือเทศไม่ผสมน้ำตาล สปาเกตตีราดซอสมะเขือเทศ แซนด์วิชชีสใส่มะเขือเทศ น้ำพริกมะเขือเทศกับผักสด ซุปมะเขือเทศ
Yogurt โยเกิร์ตมีแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยป้องกันอาการท้องอืดท้องเฟ้อและอาการท้องผูกท้องร่วง ช่วยลดการเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยแคลเซียม จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดอาหารประเภทนมเนยโดยไม่ต้องกลัวว่าจะขาดแคลเซียม แต่ควรเลือกโยเกิร์ตที่ไม่ผสมน้ำตาลTry this : ผลไม้รวมใส่โยเกิร์ต สลัดผักราดโยเกิร์ต สมู้ทธีใส่โยเกิร์ต ผสมซุปโยเกิร์ตลงในซุปอุ่น ๆ สักช้อน ปลาแซลมอนย่างราดซอสโยเกิร์ตผสมแตงกวา
Nuts ถึงเวลาอาหารว่างอย่าลืมนึกถึงถั่ว ( ไม่ใช่ถั่วลิสง ) เพราะถั่วคือของกินเล่นที่มีประโยชน์มากกว่าขนมขบเคียว ถั่วมีหลายประเภท เช่น อัลมอนด์ วอลนัท บราซิลเลียนนัท พิสทาซิโอ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ พีแคน เชสนัท ซึ่งอุดมด้วยโปรตีน แมกนีเซียม วิตามินบีและอี คนส่วยใหญ่ไม่ค่อยกินถั่ว เพราะคิดว่ามีแคลอรีสูง แต่ถั่วมีกรดไขมันที่ร่างกายต้องการ ฉะนั้นถ้าเลือกกินในจำนวนที่เหมาะสม คือไม่เกิน 25 กรัมต่อวัน ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักTry this : สลัดผักใส่อัลมอนด์ ส้มตำใส่เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ไอศกรีมโรยหน้าด้วยพิทาซิโอ ผลไม้แห้งกับถั่ว วอลนัทกับชีส

Read More

หินสีประจำเดือนเกิด


มกราคม – การ์เนต ( January-Garnet)
__________________________________________________ _____________
สำหรับผู้ที่เกิดในเดือนมกราคม อัญมณีประจำเดือนเกิดของท่านคือพลอยการ์เนต (Garnet) หรือ พลอยโกเมนซึ่งเชื่อกันว่าเป็นอัญมณีแห่งความมั่นคง, ความน่าเชื่อถือ และ ความงดงาม ในสมัยอียิปต์โบราณเชื่อกันว่า อัญมณี ชนิดนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งการมีชีวิต (Symbol of Life) และยังมีความเชื่ออื่นๆอีก เช่น โกเมนเป็นอัญมณีแห่งแสงสว่างโนอาห์ได้ใช้ แขวนไว้ ในเรือ เพื่อใช้ส่องสว่างหรือเชื่อว่าอัญมณีชนิด นี้สามารถใช้ในการรักษาโรคได้ เป็นต้นการ์เนต (Garnet) มีรากศัพท์มาจากภาษาละติน“Granatum”หรือ “Granatus”หมายถึงเมล็ดสี แดง ของผลทับทิม ทั้งนี้ก็เพราะว่า อัญมณีชนิดนี้มีสีแดง คล้ายกับเมล็ด ของผล ทับทิม และมักจะพบผลึก ของ อัญมณีชนิดนี้ฝังอยู่ในเนื้อหิน โดยมีลักษณะ คล้าย การฝังตัว ของ เมล็ดในผลทับทิม โดยธรรมชาตินั้น การ์เนต(Garnet)มีอยู่หลายสียกเว้นสีน้ำเงิน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแร่ที่เป็นองค์ประกอบอยู่ในเนื้อหิน แต่สีที่พบมากที่สุด คือ สีแดง ชนิด ไพโรป (Pyrope) คำว่าไพโรป นี้มาจากภาษา กรีก แปลว่า “ เหมือนไฟ ” นอกจากนี้ยังมีชนิด อัลมานไดน์ “Almandine” มีสีแดง อมน้ำตาล (Brownish-red) , สเปซซาไทต์ หรือ สเปซซาไทน์ “Spessatite or Spessartine” มีสีส้มจนถึงสีแดงอมส้ม, อัมบาไลต์“Umbalite” สีม่วงอมชมพู(Light pinkish-purple)ซึ่งเป็น การ์เนตที่มีส่วนผสมของไพโรป, อัลมานไดน์ และ สเปซซาไทน์ สำหรับ ในประเทศไทย เราจะเรียก อัญมณีนี้ว่า “โกเมน” ซึ่งหมายถึง การ์เนตชนิดสีแดงนั่นเอง ปัจจุบัน การ์เนตที่มีสีเขียว “Uvarovite or Tsavorite”กำลังเป็น ที่นิยม อยู่เหมือน กัน
กุมภาพันธ์ – อเมทีสต์ (February – Amethyst)
__________________________________________________ _____________
อัญมณีแห่งความจริงใจ และความมีสติ คือพลอยประจำเดือนเกิด ของคนเดือน กุมภาพันธ์อเมทีสต์เป็นอัญมณี สีม่วงเหมือนดอกตะแบกซึ่งจัดอยู่ในแร่ตระกูลควอทซ์ (Quartz) อัญมณีชนิด นี้ มีการค้นพบว่ามีการ ใช้งานในประเทศจีนมากว่า 8,000 ปี มาแล้วอเมทีสต์ (Amethyst) มาจากภาษากรีก (Amethystos) แปลว่า “ไม่ทำให้เมา”ซึ่งก็น่าจะมาจากนิยาย กรีก โบราณ ที่เล่าต่อกันมา เกี่ยวกับ “แบคคัส” (Bacchus) เทพเจ้าแห่ง เหล้าองุ่น (The God of Wine) รู้สึกโกรธแค้นที่ถูกเทพธิดาไดอาน่า ทอดทิ้งจึงได้สาปแช่งว่า ผู้ใดก็ตามที่ ผ่านเข้ามา จะต้องถูกเสือของเขาจับกิน วันหนึ่งมีหญิงสาวบริสุทธิ์ นางหนึ่งชื่อว่า อเมทีสต์เดินทาง ผ่านมาเพื่อที่จะไปสักการะเทพธิดาไดอาน่า ได้ถูกเสือของแบคคัส ตรงเข้า ทำร้าย อเมทีสต์ เห็น ดังนั้น จึงได้ร้องตะโกน เพื่อขอให้เทพ ธิดาไดอาน่า ที่นางนับถือช่วยเหลือ เทพธิดาไดอาน่า จึงได้ เปลี่ยนร่างของหญิงสาวให้กลายเป็นผลึกหิน ควอทซ์ ที่ใสบริสุทธิ์ เพื่อให้ รอดพ้นจากเขี้ยวเล็บของ เสือ แบคคัสเห็นดังนั้นก็รู้สึกเสียใจในการกระทำของพระองค์เองจึงนำ เหล้าองุ่นเทลงบนแห่งผลึก หิน ควอทซ์อเมทีสต์ โดยปล่อยให้ส่วนขาและเท้าของเธอ ยังเป็น ส่วนที่ ใสอยู่นี่เองจึงเป็นที่มาของ ชื่อเรียกอัญมณีชนิดนี้ว่า อเมทีสต์ และลักษณะของแร่อเมทีสต์ที่พบในธรรมชาติก็จะมีลักษณะใส ตรงบริเวณโคนผลึกและจะมีส่วนที่เป็นสีม่วง บริเวณกลางจนถึงปลายผลึก
มีนาคม – อะควอมารีน (March – Aquamarine)
__________________________________________________ _____________
อัญมณีแห่งความกล้าหาญ คือ อัญมณีประจำเดือนเกิดของผู้ที่เกิดในเดือน มีนาคมอะควอมารีน เป็นอัญมณีสีฟ้า อมเขียว (Greenish-Blue) จนถึงสีเขียวอมฟ้า (Bluwish-green)สำหรับ สีที่เป็นที่นิยมจะเป็นสีฟ้า น้ำทะเล อะควอมาริน เป็นพลอยที่อยู่ในแร่ตระกูล เบริล (Beryl)ซึ่งเป็นแร่ตระกูลเดียวกับมรกตอะควอมารีน (Aquamarine) มีรากศัพท์มาจากภาษาละติน 2 คำคือ “Aqua” ซึ่งแปลว่าน้ำ และ “Mare” ซึ่งแปลว่า ทะเล จึงมีความหมายว่า “น้ำทะเล” เป็นการบ่งบอกถึงสีของอัญมณี ชนิดนี้ได้อย่างชัดเจน ตามความเชื่อโบราณเชื่อกันว่าอัญมณีชนิดนี้เป็นอัญมณ ีของเทพธิดา แห่ง ท้องทะเล นางเงือกทำให้กะลาสี , ชาวเรือ เชื่อกันว่าหากมีไว้ใน ครอบครองจะทำให้เดินทาง ทะเล ได้อย่างปลอดภัยและยังมีความเชื่อว่า อัญมณี ชนิดนี้ จะทำให้ผู้ ที่มีไว้เป็นผู้ที่มีจิตใจสงบไม่ ฟุ้งซ่าน มีความสุขกายสบายใจจึงเป็นที่นิยมสำหรับ คู่แต่งงานด้วยสำหรับราคาของ อะควอมารีน นั้นจะขึ้นอยู่กับความเข้มของสี ยิ่งมีความเข้มมากราคาก็จะ ยิ่งสูงแต่ทั้งนี้ยังต้องพิจารณาถึงตำหนิที่มีด้วยเพราะในธรรมชาติก ้อนผลึกอะควอมารีน ส่วนใหญ่จะ ค่อนข้างบริสุทธิ์ ใส่ไม่ทึบหากอะควอมารินเม็ดใดมีตำหนิมาก ทึบแสงก็จะ มีราคาถูก
เมษายน (April – Diamond)
__________________________________________________
_____________
“ เพชร ” เป็นอัญมณีประจำเดือนเกิด ของผู้ที่เกิด เดือนเมษายน อัญมณีที่บ่งบอกถึง ความบริสุทธิ์ ความสมบูรณ์แบบเพชรเป็นที่นิยมกันมากในทุกยุคทุกสมัยจากหลักฐานที่ป รากฎมีการค้นพบเพชรครั้งแรก ในประเทศอินเดียเมื่อประมาณ 3,000 ปีมาแล้วและนับเป็นเวลาหลายศตวรรษที่เดียวที่ อินเดีย เป็นแหล่งเพชรดิบที่สำคัญ แห่งหนึ่งของโลก ในปี ค.ศ. 1866 มีการ ค้นพบ เหมือง เพชร ที่สำคัญ ในทวีปแอฟริกา หลังจากนั้นจึงเริ่มมีอุตสาหกรรรม การค้าเพชรกันอย่างแพร่หลายจวบจนปัจจุบัน นี้นอกจากเหมืองในทวีปแอฟริกาแล้วยังมีการค้นพบแหล่ง เพชรดิบ ในอีกหลายส่วน ของ โลกเช่น ประเทศรัสเซีย, ออสเตรเลีย, แคนาดา เป็นต้นคำว่า เพชร (Diamond) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก “Adamas” ซึ่งหมายความว่าไม่ สามารถพิชิตได้ (Unconquerable) และในตำนานกรีกยังเชื่อกันว่า เพชรคือดวงดาว ที่ ล่วงหล่น ลงมาจากท้องฟ้า บ้างก็ว่าเพชร คือ หยดน้ำตาของเทพเจ้า แต่ในความเป็นจริงแล้วเพชร คือ ผลึก คาร์บอน ซึ่งมีคุณสมบัติ แข็งแกร่ง ทนทาน ใสบริสุทธิ์ ไม่มีสีเจือปน และยังไม่ทำ ปฏิกิริยากับกรด และ ด่างด้วยสำหรับเพชรที่นำมาใช้ทำเป็นเครื่องประดับนั้น จะมีเพียง 20 % ของปริมาณเพชรดิบที่ขุดได้ทั้งหมดที่เหลือจะมีคุณภาพ เพียงเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เท่านั้นเพชรที่นำมาใช้ทำเครื่องประดับนี้ก็จะมีการจำแนกตามค ุณภาพของเพชรเม็ดนั้นๆโดย มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ที่เรียกกันว่า 4’C ( Cutting , Color , Clarity , Carat weight) ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์สากลที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
พฤษภาคม – มรกต (May – Emerald)
__________________________________________________ _____________
อัญมณี แห่งความชุ่มชื่น และ ความสมบูรณ์ของมวลพฤกษาในฤดูใบไม้ผลิ นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่ามรกตเป็นอัญมณีแห่งความรักของคู่รักอีกด้วยทั้งนี้ก็ เพราะว่ามรกตเป็นอัญมณีที่โปรดปราณของเทพธิดาวีนัส ซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งความรัก (Goddess of Love) เชื่อกันว่า มรกตมีพลังอำนาจดลใจให้คู่รักมีความรักและซื่อสัตย์สุจริตต่อกัน หากวันใดที่ความรักจืดจากลง สีของมรกตก็จะจืดจางลงเช่นกันมรกต “Emerald” บ้างก็ว่ามีรากศัพท์มาจาก ภาษาเปอร์เซีย หรือ ภาษากรีกว่า “Smaragdos” หมายถึง หินที่มีสีเขียว ซึ่งในอดีตไม่ได้หมายถึงเฉพาะมรกต แต่ยังหมายถึงหินสี เขียวทุกชนิด มรกตเป็นอัญมณีที่อยู่ในตระกูลเบริล (Beryl) เช่นเดียวกับ อะควอมารีน โดยปกติ แล้วเบริลจะเป็นธาตุที่ใสไม่มีสี แต่มรกตมีสีเขียวก็เพราะมี ธาตุโครเมียม (Chrome) ปนอยู่ใน เบริล อัญมณีชนิดนี้ จะค่อนข้างมีรอยแตก หรือ ที่เราเรียกว่าตำหนิ ในตัวมันเองค่อน ข้างมากจึงทำให้มรกตมีความเปราะบางแตกหักได้ง่ายแม้ว ่าตัวมันเองจะมีความแข็งถึง 7.5-8 สเกลโมล (Mohs’ scale) ก็ตาม (เพชรมีค่าความแข็ง 10 สเกลโมล)
มิถุนายน – ไข่มุก , มุกดาหาร (June – Pearl,Moonstone)
__________________________________________________ _____________
อัญมณีสำหรับเดือนมิถุนายนที่เป็นที่นิยมมีอยู่ 2 ชนิดได้แก่ ไข่มุก“ Pearl ”และ มุกดาหาร“Moonstone” ดูเหมือนว่าไข่มุกจะเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมมากก ว่าไข่มุก “Pearl” มาจากภาษาละติน “Pilula” แปลว่าลูกบอลในสมัยโบราณรู้จักไข่มุกในชื่อ ของ มาร์กา ไรต์ “Margarite” ซึ่งมาจากภาษากรีก “Margaritafera” ชื่อนี้หมายถึงหอยที่มีมุกฝังอยู่มีเรื่องเล่าต่อ กัน มา ถึงที่มาของไข่มุกว่า ไข่มุกนั้นเกิดจากน้ำค้าง ที่หยดลงมา จากสวรรค์ ใน คืนวันพระจันทร์เต็มดวง และได้นำแสงอันอ่อนละมุนน่าพิศวงจากดวงดาวติดตัว มาด้วยบ้างก็ว่าไข่มุกเป็นหยดน้ำตาแห่งความปิติ ิของเทพธิดาที่หลั่งออกมา ให้กับโชคชะตา ชีวิตของมวลมนุษย์ ชาวฮินดูมีความเชื่อว่าไข่มุกเป็นอัญมณีแห่งความมั่ง คั่งสมบูรณสีสันต่างๆ ของไข่มุกยัง แสดงถึงสัญลักษณ์ต่างๆ กันออกไป เช่น ไข่มุกขาว หมายถึง ความมีอุดมคติหรือความ เป็น เลิศ, ไข่มุกดำ หมายถึง ปรัชญา เป็นต้น มุกดาหาร“Moonstone”คืออัญมณีชนิดที่สองของเดือนนี้ “Moonstone” มากจากภาษาละติน “Luna” หมายถึง พระจันทร์ ทั้งนี้ก็เพราะว่าสีของ Moonstone จะออกลักษณะ ที่คล้ายกับ การเรืองแสงของดวงจันทร์คือจะ ออก เป็น ลักษณะ สีเรื่อๆ ไม่รุนแรง บาดตา เมื่อมองแล้วทำให้ ชวนหลงไหล กับความงามของมัน ในประเทศอินเดียเชื่อกันว่า Moonstone จะนำความโชคดีมาให้และถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นในสมัยโบราณ จึงไม่มีการซื้อขายกันโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชนิดที่มีสีเหลือง Moonstone เป็น อัญมณีในตระกูล เฟลสปา “Feldspar” ซึ่งเป็นธาตุที่ค่อนข้างเปราะ มีค่า ความแข็ง ประมาณ 6-6.5 โมลสเกล (Mohs’ scale) จึงทำให้ง่าย ต่อการเจียรไน เป็น รูปทรง ต่างๆ เพื่อใช้ทำเป็นเครื่องประดับประเภท จี้ , ต่างหู และเข็มกลัด เป็นต้น ปัจจุบันศรีลังกาเป็นแหล่งที่พบ“Moonstone” ที่มีคุณภาพมากที่สุด นอกจากนี้ยังพบใน ประเทศพม่า และ อินเดีย ออสเตรเลีย บราซิล แต่คุณภาพ ก็ไม่สามารถเทียบกับ “Moonstone” ที่มากจาก ศรีลังกาได้ “Moonstone” ที่มีคุณภาพดี ตัวเนื้อจะค่อนข้างใส โปร่งแสง ไม่ทึบและจะ ต้องมีตำหนิน้อยที่สุด
กรกฎาคม – ทับทิม ( July –Ruby)
__________________________________________________ _____________
อัญมณีสีแดงสด ทับทิม (Ruby) เป็นอัญมณีประจำเดือนเกิดของผู้ที่เกิด ในเดือน กรกฎาคม ทับทิม( Ruby ) มาจากภาษาละติน “Rubeus” แปลว่า สีแดง ส่วนรากศัพท์ เดิม มาจาก ภาษาสันสกฤตะ Ratnaraj” หรือ “Rajnapura” แปลว่าราชาแห่งอัญมณี ( King of Gems) เนื่องด้วย เพราะ ความสวยงามและความหายากนั่นเอง กล่าวกันว่ามูลค่าของทับทิมบางเม็ดจะมีราคาสูงกว่ารา คาของอัญมณีอื่นๆ แม้กระทั่งเพชรก็ตาม เช่น ในปี คศ.1988 มีการ ซื้อขายทับทิม เจียรไน น้ำหนัก 15.97 กะรัต ในราคา 3630000 us หรือ 227301 us ต่อกะรัต เลยทีเดียวทับทิม ( Ruby) เป็นอัญมณีในตระกูลคอลันดัม ( Corundum) เช่นเดียวกับ ไพลิน และบุษราคัมมีค่าความแข็งอยู่ที่ 8 ไมลสเกล ซึ่งจะเป็นรองก็เพียงแต่เพชร เท่านั้น จึงเหมาะ ที่จะนำมาใช้ทำเป็นเครื่องประดับ สำหรับการประเมินมูลค่าของทับทิม ปัจจัยแรกที่พิจารณา คือ เรื่องของสีเพราะเสน่ห์ของทับทิมจะอยู่ที่สีแดง ที่มีหลายเฉดด้วยกัน แต่เฉดสีที่นิยม และ หายาก ได้แก่สีแดงสด
สิงหาคม – เพริดอต ( August – Peridot)
__________________________________________________ _____________
เพริดอต (Peridot) อัญมณีสีเขียว ใสบริสุทธิ์ เป็นอัญมณีประจำเดือนเกิด ของคน เดือน สิงหาคมสีเขียวของเพริดอตบางครั้งเป็นที่รู้จักกันในนามEven ningemerald แต่อัญมณี ชนิดนี้ ไม่ใช้ธาตุชนิดเดียวกับมรกตเลยแม้แต่น้อยคนในสมัยโบราณเรียกพลอยชนิดนี้ว่าเป็น “ อัญมณีแห่งดวงตะวัน ” (The gem of the sun) เพราะ มีความเชื่อว่าเพริดอตมีอำนาจขับไล่ภูตผีปีศาจ และ ทำให้ผู้สวมใส่มีเสน่ห์ ในสมัย อียิปต์โบราณรู้จักอัญมณีชนิดนี้ในชื่อ “Topazion” ซึ่งมีที่มาจากแหล่งที่ค้นพบ อัญมณี ชนิดนี้ ก็คือ เกาะ Topazos” หมายถึง การเสาะแสวงหา ปัจจุบันเกาะนี้ เรียกกันว่า เกาะ “Zarbagad” หรือ ในภาษาอาระบิกว่า “Peridot” ซึ่งมีความหมายว่า หินมีค่าหรือรัตนชาติ เพริดอตเป็นอัญมณีที่มีสีเขียวคล้ายสีของผลมะนาวเขีย วอมเหลือง(Yellowish-Green)จนถึงสีเขียว เข้มอมน้ำนาล(Brownish–Green)ค่าความแข็งของอัญมณีชน ิดนี้อยู่ที่ประมาณ6.5 โมลสเกล (Moh’s scale) จึงไม่ใช่อัญมณีที่แข็งมากนัก ดังนั้นผู้ที่ต้องการ จะเป็นเจ้าของ เครื่อง ประดับที่มีเพริดอตประดับอยู่จึงต้องระมัดระวังในการสวมใส่ และเก็บรักษาที่ดีพอสมควรทีเดียว
กันยายน – แซฟไฟร์ (September - Sapphire)
__________________________________________________ _____________
แซฟไฟร์ “Sapphire” อัญมณีประจำเดือนกันยายน Sapphire มาจากภาษาฮิบรู “Saffir” หรือ จากภาษากรีก “Sappheiros” หมายถึงสีน้ำเงิน “Blue” ซึ่งสมัยโบราณ จะเรียกอัญมณีที่มีสี น้ำเงินว่าแซฟไฟร์(ปัจจุบันหากพูดถึงแซฟไฟร์ “Sapphire”คำเดียวจะหมายถึง Blue Sapphire หรือ ไพลิน) แต่ในความเป็นจริงแล้ว Sapphire มีหลาก หลายสีเช่น สีเหลือง, ชมพู,ม่วง,เขียว เป็นต้น ดังนั้นหากเราจะเรียกอัญมณีชนิดนี้ที่ไม่ใช่ สีน้ำเงิน แล้วจะต้องระบุ สีด้วย เช่น Yellow Sapphire(บุษราคัม),Green Sapphire (เขียวส่อง) ,Padparadsha Sapphire (พลอย สามสี) เป็นต้นชาวเปอร์เซียโบราณเชื่อกันว่าแซฟไฟร์ คือ “หินที่มาจากฟ้า” เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าโลก ตั้งอยู่บน แซฟไฟร์ ขนาดมหึมา จึงทำให้สะท้อนแสงแดด ออกไปสู่ท้องฟ้ามีสีน้ำเงิน นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีคนบางกลุ่ม เชื่อว่า แซฟไฟร์เป็นพลอยของกษัตริย์ที่ใช้สวมใส่เพื่อป้องกัน ภยันตรายและถือเอาอัญมณีชนิดนี้เป็นสัญลักษณ์ของความจริงใจ และมั่นคง
ตุลาคม – โอปอล และ ทัวร์มารีน (October – Opal and Tourmaline)
__________________________________________________ _____________
อัญมณีสำหรับผู้เกิดเดือนตุลาคมมีให้เลือกใช้ถึง 2 ชนิดคือ โอปอล Opalอัญมณีแห่งความหวังโอปอลเป็นอัญมณีที่มีสีสรรดั่งเช่ น สีของสายรุ้ง นักประพันธ์ ชาวโรมันนาม ไพลนี “Pliny” ได้บรรยายความงาม ของสีสันต่างๆที่ผสมกลมกลืนรวมกันอยู่ในโอปอลว่ายามเมื่อมองเห็นโอ ปอล ราวกับ มองเห็นแสงไฟที่มีชีวิตของอะเมทิสต์, เขียวน้ำทะเล ที่สวยสดใส ของมรกต ร่วมกันส่องแสงเป็นประกายระยิบระยับ สวยสุดที่จะพรรณาOpal มีรากศัพท์จากภาษาสันสกฤต “ อูพาลา ” (Upala) แปลว่า " หินที่มีค่า " โอปอลเป็นอัญมณีที่ค่อนข้างเปราะแตกหักได้ง่ายจึงต้องระมัดระว ังในการสวมใส่และเก็บรักษา อัญมณีอีกชนิดหนึ่งสำหรับผู้ที่เกิดเดือนตุลาคมคือทั วร์มารีน(Tourmaline)อัญมณีชนิดนี้มีมากมายหลายสี เช่น สีแดง, ส้ม, เหลือง, เขียว, น้ำเงิน, ม่วง, ดำหรือแม้กระทั่งไม่มีสีเลยก็ได้และสิ่งที่พิเศษสำหร ับทัวร์มารีนก็คือสามารถ พบทัวร์มารีนที่มีสีตั้งแต่ 2 สี จนถึงหลายสีได้ ในเม็ดเดียวกัน เช่น Water melon ทัวร์มารีนซึ่งจะมีสีชมพูอยู่บริเวณด้านในล้อมรอบด้ว ยสีเขียวบริเวณ ขอบเม็ดดูเหมือนผลแตงโมนั่นเอง ทัวร์มารีนมีรากศัพท์มาจากภาษาสิงหล (Sinhalese) คำว่า “Turmali” “ทรูมาลี” มีความ หมายว่า อัญมณีที่มีสีผสมกัน “Stone of mixed colours” ค่าความแข็งของ ทัวร์มารีน จะอยู่ที่ประมาณ 7-7.5 โมลสเกล จึงค่อนข้างแข็งสามารถนำมาทำเป็นเครื่องประดับได้หลา ยชนิด ทัวร์มารีนจะมีชื่อเรียกเฉพาะในแต่ละเฉดสีด้วยเช่น “รูบิไลต์” (Rubellite) (Deep pink to red to violet red) , “ อินดิโคไลต์” (Indicolite) (indigo blue and greenish blue) เป็นต้น
พฤศจิกายน – โทแพซ และ ซิทริน (November – Topaz , Citrine)
__________________________________________________ _____________
อัญมณีสำหรับผู้ทีเกิดเดือน พฤศจิกายนจะเป็นอัญมณี ที่มีสีเหลืองอันเป็นสัญญาลักษณ์ แห่ง ฤดใบไม้้ร่วงซึ่งมีอยู่ 2 ชนิด คือ โทแพซ (Topaz) และ ซิทริน (Citrine) นั่นเอง โทแพซ (Topaz) เป็นอัญมณีที่มีอยู่หลายเฉดสี แต่ในอดีต เมื่อกล่าวถึงโทแพซ จะหมายถึง อัญมณีที่มีสีเหลือง คำว่า "โทแพซ" มาจากภาษากรีกโทแพเซียน “Topazian” หมายถึงการเสาะแสวงหาต่อมากลายเป็นชื่อเกาะ ที่พบอัญมณีชนิดนี้ก็คือ เกาะโทแพซอส “Topazios” ซึ่งตั้ง อยู่ในทะเลแดง ปัจจุบันเกาะนี้มีชื่อเรียกว่า ซีเบอร์เกต (Zebirget) ซีทริน(Citrine)เป็นอัญมณีที่มีสีเหลืองจนถึงสีเหลือ งส้มเชื่อกันว่าซีทรินเป็นอัญมณีแห่งการปกป้องและการรักษาคำว่าซิทรินนี้มา จากภาษาฝรั่งเศส“Citron”แปลว่ามะนาว(lemon) เพราะสี ของอัญมณีชนิดนี้นั่นเอง บางครั้งจะเกิดการสับสนระหว่างโทแพซที่มีสีเหลืองกับ ซิทรินว่าเป็น อัญมณีชนิดเดียวกันแต่ที่จริงแล้วต่างกันโดยสิ้นเชิง ซิทรินเป็นแร่ควอทซ์ (Quartz)เช่นเดียวกับอเมทิสต์(Amethyst)แต่เป็นควอทซ ์ชนิดที่มีสีเหลืองในการจำแนกโทแพซและซิทรินนั้นจะใช้ค่าความแข็งเป็นตั วบ่งชี้ซิทรินจะมีค่าความแข็งอยู่ที่ 7 โมลสเกล ส่วน โทแพซจะอยู่ที่ 8 โมลสเกล อย่างไรก็ตามอัญมณีทั้ง2ชนิดก็เป็นอัญมณีที่มีสีเหลื องสดใสงดงาม เหมาะกับการนำมา ทำเป็นเครื่องประดับสำหรับผู้ที่เกิดเดือน พฤศจิกายน
ธันวาคม – เทอร์คอยซ์ (December – Turquoise)
__________________________________________________ _____________
เทอร์คอยซ์ หรือ พลอยขี้นกการะเวก (Turquoise) อัญมณีสีฟ้า สำหรับผู้ที่เกิด เดือน ธันวาคมเป็นอัญมณีที่รู้จักกันมากว่า 5,000 ปีแล้ว (3,000 BC) ตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณส่วนคำว่า เทอร์คอยซ์ มาจากคำในภาษาฝรั่งเศส “ Pierre turquoise” ซึ่งหมายถึง “ Turkey stone” หรือ หินตุรกีสาเหตุมาจากเส้นทางการนำอัญมณีชนิดนี้สู่ดินแดนยุโรปโด ยผ่านทางประเทศตุรกี ในช่วง ศตวรรษที่ 13 นั่นเองในอดีตเทอร์คอยซ์มีแหล่งที่มาจากเหมืองในแถบเปอร์เซี ย ชาวเปอร์เซียเชื่อกันว่า เทอร์คอยซ์ เป็นอัญมณีแห่งโชคลาภ ผู้ที่ได้สวมใส่หรือครอบครองจะมีโชคแม้ในยามอยู่ในนิ ทราปัจจุบัน แหล่ง เทอร์คอยซ์ที่สำคัญจะมาจากแถบพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ อเมริกา อินเดียนแดงเผ่าอปาเช่ เรียกอัญมณีชนิดนี้ว่า ดุคลิจ (Duklij) ถือเป็นพลอยที่มีค่า นำมา ใช้เป็นเครื่องลางสีที่เป็นที่นิยมของเทอร์คอยซ์ก็คือสีฟ้าข องท้องฟ้า (Sky blue) คล้ายกับสีฟ้าของ นกโรบิน

Read More

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

SNSD



No.1 - 윤아 YoonA ยุนอาชื่อจริง 임윤아 Im Yoona อิมยุนอาเกิดเมื่อ 30 พฤษภาคม 1990 ส่วนสูง 166 เซนติเมตรน้ำหนัก 44 กิโลกรัมกลุ่มเลือด B เข้าวงการ2001 SM Open Audition ผลงาน -2004 TVXQ's Magic Castle MV -2006 Elite CF with SS501 -2006 TVXQ First Concert guest appearance -2006 Super Junior's U MV -2006 TZSX's 얼정 (My Everything) MV -2007 Sunkist Lemonade CF w/ Super Junior's Kangin, Heechul Version 2 -2007 Clean and Clear CF -Teun Teun English 'Follow Me' CF -Sanyo Eneloop CF -Cindy the Perky, eCole, Dasoo magazines แฟนคาเฟ่ http://cafe.daum.net/imyoona [Luxury Brand]ผลงานปัจจุบัน - สมาชิกวง So Nyeo Shi Dae, So Nyeo Si Dae, SNSD, The Era of Girl, Girls' Generation, โซนยอชิแด- แสดงละครเรื่อง 9ends 20outs ทาง MBC
No.2 - 티파니 Tiffany ทิฟฟานี่ชื่อจริง 황미영 Hwang Miyoung ฮวังมิยองชื่ออังกฤษ: 스테파니 Stephanie เกิดเมื่อ 1 สิงหาคม 1989 ส่วนสูง 162 เซนติเมตรความสามารถพิเศษ: ภาษาอังกฤษเข้าวงการ2004 SM Casting 2004 CJ/KMTV (USA-LA) Contest 1st Place แฟนคาเฟ่ http://cafe.daum.net/SMstpn890801 ผลงานปัจจุบัน - สมาชิกวง So Nyeo Shi Dae, So Nyeo Si Dae, SNSD, The Era of Girl, Girls' Generation, โซนยอชิแด
No.3 - 유리 YuRi ยูริชื่อจริง 권유리 Kwon Yuri ควอนยูริเกิดเมื่อ 5 ธันวาคม 1989 เข้าวงการ2000 SM 1st Annual Best Contest ผลงาน -2005 KM Super Junior Show 'The King's Boyfriend'-2006 DBSK's Beautiful Life MV -2006 Orion Chocopie CF w/ Jang Donggun-2006 Dongil Highvill CF -2007 DBSK's Second Concert guest appearance-Hot Choco Mite CF แฟนคาเฟ่ http://cafe.daum.net/rnjsdbfl [Yuri Princess]ผลงานปัจจุบัน - สมาชิกวง So Nyeo Shi Dae, So Nyeo Si Dae, SNSD, The Era of Girl, Girls' Generation, โซนยอชิแด
No.4 - 효연 HyoYeon ฮโยยอนชื่อจริง 김효연 Kim Hyoyeon คิมฮโยยอนเกิดเมื่อ 9 กันยายน 1989 กลุ่มเลือด AB ส่วนสูง 160 เซนติเมตรเข้าวงการ2000 SM Casting ผลงาน -2005 M.Net/KM Music Festival - BoA's 'Over the Top' silhouette dancer แฟนคาเฟ่ http://cafe.daum.net/hy0922 [Venus Hyoyeon]ผลงานปัจจุบัน - สมาชิกวง So Nyeo Shi Dae, So Nyeo Si Dae, SNSD, The Era of Girl, Girls' Generation, โซนยอชิแด
No.5 - 수영 SooYoung ซูยองชื่อจริง 최수영 ชเวซูยองเกิดเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 1990เข้าวงการปี 2002 เป็นนักร้องวงดูโอ้ Route O ที่ญี่ปุ่นผลงานพิธีกรรายการ M.net Hello Chatถ่ายโฆษณา Anycallนางแบบเครื่องแต่งกายนักเรียน Skoolooks (skoolooks.com)เป็นดีเจวิทยุร่วมกับซองมิน (ซูเปอร์จูเนียร์) รายการ 천방지축라디오 ของ MelOnผลงานปัจจุบัน - สมาชิกวง So Nyeo Shi Dae, So Nyeo Si Dae, SNSD, The Era of Girl, Girls' Generation, โซนยอชิแด
No.6 - 서현 SeoHyun ซอฮยอนชื่อจริง 서주현 Seo Juhyun ซอจูฮยอนเกิดเมื่อ 28 มิถุนายน 1991ส่วนสูง 168 เซนติเมตรกลุ่มเลือด A เข้าวงการ: 2002 SM Casting ผลงาน-2004 SMART Uniform Model แฟนคาเฟ่: http://cafe.daum.net/cutejuhyun [Star] ผลงานปัจจุบัน - สมาชิกวง So Nyeo Shi Dae, So Nyeo Si Dae, SNSD, The Era of Girl, Girls' Generation, โซนยอชิแด
No.7 - 태연 TaeYeon แทยอนชื่อจริง 김태연 Kim Taeyeon คิมแทยอนเกิดเมื่อ 9 มีนาคม 1989กลุ่มเลือด O ส่วนสูง 162 เซนติเมตรเข้าวงการ2004 8th Annual Best Contest Attended SM Academy ผลงาน -2004 Featured in The One's song "You Bring Me Joy" แฟนคาเฟ่ http://cafe.daum.net/KTY612 [SMART] ผลงานปัจจุบัน - สมาชิกวง So Nyeo Shi Dae, So Nyeo Si Dae, SNSD, The Era of Girl, Girls' Generation, โซนยอชิแด
No.8 - 제시카 Jessica เจสิกาชื่อจริง 정수연 Jung Sooyeon จองซูยอนเกิดเมื่อ 18 เมษายน 1989 ส่วนสูง 163 เซนติเมตร น้ำหนัก 43kg กลุ่มเลือด B Family: Mother, father, sisterเข้าวงการ2000 SM Casting Fancafe:http://cafe.daum.net/980418[Sweet Jessica] ผลงานปัจจุบัน - สมาชิกวง So Nyeo Shi Dae, So Nyeo Si Dae, SNSD, The Era of Girl, Girls' Generation, โซนยอชิแด
No.9 - 써니 Sunny ซันนี่เกิดเมื่อ 15 พฤษภาคม 1989ส่วนสูง 158 เซนติเมตรแฟนคาเฟ่ http://cafe.daum.net/sunnydaisyผลงานปัจจุบัน - สมาชิกวง So Nyeo Shi Dae, So Nyeo Si Dae, SNSD, The Era of Girl, Girls' Generation, โซนยอชิแด

Read More